เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของความเป็นฮับนางงามทั้งในภูมิภาคเอเชียและระดับโลก พร้อมทั้งขานรับนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมสนับสนุนบทบาทและสถานภาพสตรีไทย ทาง “MISS AURA INTERNATIONAL ACADEMY” (MAI ACADEMY) ซึ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนให้ผู้หญิงไทยในภาพลักษณ์นางงามมีคุณค่าอย่างยั่งยืนในทุกมิติ จึงได้จัดโครงการอบรมในหลักสูตร “นางงามอัจฉริยะ” ขึ้นพร้อมทั้งปูพรมยกระดับมาตรฐานผู้หญิงไทยให้ “งามอย่างไทย ทันสมัยสู่สากล” โดยได้จัดงานพบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะสื่อมวลชนไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องไอวี เล้าจน์ โรงแรมหัวช้างเฮอริเทจ กรุงเทพฯ
คุณกุ้ง–ปวีณา บำรุงรส ประธานผู้อำนวยการบริษัท ERM Thailand และผู้ก่อตั้ง MAI Academy ที่ถือลิขสิทธิ์เวทีประกวดอินเตอร์มากกว่า 30 เวที กล่าวว่า สำหรับแรงบันดาลใจในการก่อตั้งองค์กร MAI ACADEMY มาจากประสบการณ์ที่เราเคยผ่านการประกวดมาก่อนทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ทำให้เห็นถึงมุมมองและประสบการณ์ต่างๆ ในเวทีนางงาม ซึ่งการประกวดเป็นเรื่องของ Know How เป็นส่วนใหญ่ จึงคิดว่าน่าจะนำประสบการณ์อันทรงคุณค่าดังกล่าวมาแบ่งปันมาถ่ายทอดองค์ความรู้และติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้สนใจที่จะเข้าร่วมประกวดบนเวทีต่าง ๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ผ่านหลักสูตรนางงามอัจฉริยะ
ดังนั้นจึงได้จัดตั้งองค์กร “MISS AURA INTERNATIONAL ACADEMY” หรือ “MAI ACADEMY” ขึ้นมารองรับ โดยเป็นองค์กรที่ดำเนินงานภายใต้พันธกิจ “Bring You To The Best Improve Yourself with MAI….พิชิตฝันสู่เส้นทางการเป็นนางงามอัจฉริยะที่สมบูรณ์ในแบบของคุณ เรามีทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เรียกได้ว่า ผู้เข้ารับการอบรมจะได้เป็นนางงามอัจฉริยะในทุกมิติแบบ 360 องศา และครบวงจรแบบ one stop service แต่ตั้งก้าวแรกกระทั่งถึงเป้าหมายแห่งความสำเร็จ
“เราได้เปิดโครงการอบรมไปแล้วครั้งแรกเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำร่อง ต้องทำการบ้านอย่างหนัก ปรากฏว่า ประสบผลสำเร็จโดยมีกระแสตอบรับดีมาก โดยเฉพาะจากปากต่อปากของผู้เข้ารับการอบรม จึงมีการเรียกร้องให้เปิดโครงการอบรมครั้งที่ 2 ขึ้นมาอีกครั้งโดยกำลังเปิดรับสมัครผ่านเพจ MISS AURA INTERNATIONAL ACADEMY และ เพจ ERM Thailand ระยะเวลาอบรม 10 ครั้ง เรียนทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ติดต่อกัน ที่สำคัญในครั้งนี้ได้เปิดกว้างให้กับผู้สนใจทั่วไปทุกเพศทุกวัยด้วย เนื่องจากหลักสูตรนางงามอัจฉริยะสามารถนำไปปรับประยุกต์กับการทำงานและในการดำเนินชีวิตประจำวัน นับว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดียิ่ง ที่สำคัญโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เดินหน้าไม่ได้หากขาดการสนับสนุน”
ทางด้านกูรูนางงาม หนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม Executive Director and Head Coach และผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดระดับโลก กล่าวเสริมว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการส่งนางงามเข้าประกวดในเวทีระดับโลกต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาทุกยุคทุกสมัย อาจกล่าวได้ว่า เวทีประกวดจะขาดสายสะพาย THAILAND ไม่ได้เลย
อีกทั้งถนนการประกวดทุกสายมุ่งสู่ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นฮับการประกวดโดยเฉพาะนางงามมานานแล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมีมาไม่กี่ปี นี่ถ้าไม่ติดอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 รับรองว่า คึกคักอย่างแน่นอน และเชื่อว่าจะนำเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล เพราะไม่มีเพียงแค่ทีมงานและผู้เข้าประกวดเท่านั้น
หากแต่มีครอบครัว ญาติ เพื่อน แฟนนางงาม ของประเทศต่าง ๆ เดินทางมาประเทศไทยกันเป็นจำนวนมาก อย่างล่าสุดเราจะเป็น Host ในการจัดประกวด Miss Tourism Queen International 2022 โดยมีตัวแทนสาวงามจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมประกวดกว่า 40 ประเทศ นอกจากนี้ก็มีโครงการจัดประกวดและให้คำปรึกษาอีกหลายเวที เพื่อเฟ้นหาตัวแทนคนไทยเข้าร่วมประกวดในเวทีต่างประเทศที่เราครองลิขสิทธิ์ไว้ทั้งหญิงและชายกว่า 30 เวที
“แต่ละเวทีการประกวดมีบริบทหรือคอนเซ็ปต์ของการประกวดที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่คล้าย ๆ กันคือ การเก็บตัวร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ การแสดงความสามารถ ชุดประจำชาติ การโชว์ชุดราตรี การดูลักษณะนิสัยใจคอ การสัมภาษณ์ความคิดเห็นทั้งในรอบทั่วไปและรอบตัดสิน แล้วท้ายที่สุดคือ ได้คนที่ตอบโจทย์บริบทหรือคอนเซ็ปต์ของเวทีในปีนั้น ๆ มากที่สุด ทั้งนี้ตัวของผู้เข้าประกวดเองต้องทำตัวเป็นเหมือนน้ำ ไม่ว่าจะใส่ในภาชนะไหนก็ต้องอยู่ในภาชนะนั้นให้ได้ เพราะส่วนใหญ่เราไม่สามารถเลือกเวทีประกวดเองได้ กองประกวดเป็นผู้เลือกให้เราไป”
คุณเมย์–เมนัส ศรยุทธเสนี นักธุรกิจส่งออกเครื่องประดับเงิน ผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรนางงามอัจฉริยะครั้งที่ 1 ที่สร้างผลงานอันภาคภูมิใจให้กับ MAI ACADEMY ด้วยการเป็นสาวไทยคนแรกเพิ่งคว้ามงกุฎ “Mrs. Globe 2022” ซึ่งเป็นเวทีใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก เธอกล่าวว่า ผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในสถานะอะไร นางสาว แต่งงานแล้ว หย่าร้าง คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ทุกคนมีคุณค่าในทุกสถานะ เมย์ดีใจมากที่มีเวที Mrs. ขึ้นมา เพราะทำให้เราเห็นคุณค่าของผู้หญิงที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นางสาว แต่เป็นผู้หญิงที่เติบโตขึ้นผ่านการใช้ชีวิต ผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง
“เมย์คิดว่า การที่เข้ามาเรียนในหลักสูตรนางงามอัจฉริยะนี้เพราะคิดว่า ถึงแม้จะแต่งงานแล้ว ยังอยากหากิจกรรมที่ช่วยทำให้เราภาคภูมิใจในตัวเอง ไม่จำเป็นว่าคนที่จบไปแล้วต้องไปเป็นนางงาม บางทีก็นำสิ่งที่เรียนนี้มาใช้ได้ในการพัฒนาในชีวิตประจำวัน เราไม่ได้เรียนเพื่อแข่งขันกับใคร เรียนเพื่อเป็นตัวเราที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน อีกทั้งไม่ใช่การเตรียมตัวเพื่อเป็นนางงามอย่างเดียว สามารถปรับปรุงพัฒนาตัวเองได้ ทำให้ภาคภูมิใจกับความเป็นเราให้ดีขึ้น MAI ACADEMY ถือเป็น รีเมคเกอร์ที่สามารถทำให้เรากล้าแสดงออกในสิ่งที่สร้างสรรค์และกล้าที่จะรับผิดชอบตัวเองมากยิ่งขึ้น”
ทางด้านผู้เข้าอบรมในหลักสูตรนางงามอัจฉริยะ ครั้งที่ 1 อีกคนหนึ่งคือ คุณน้ำฝน–เพชรปวีณ์ หิรัญกุลชัชวาล Mrs. Thailand Globe 2022 ซึ่งจะเป็นตัวแทนไปประกวด Mrs. Globe 2023 ในปีหน้ากล่าวว่า หลักสูตรนางงามอัจฉริยะทำให้เราสามารถวางแผนชีวิตที่ดีได้ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความสำเร็จ ทำให้มีการจัดสรรเวลาอย่างเป็นระบบและให้เกิดคุณค่า มีการสร้างพลังใจให้กับตนเองที่จะช่วยหล่อเลี้ยงและขับเคลื่อนนำให้เราได้ก้าวเดินไปบนทางที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ไม่จมอยู่กับความสิ้นหวังหมดกำลังใจ
อีกทั้งสอนให้เราสำรวจตรวจสอบว่า มีสิ่งใดบ้างที่ต้องปรับปรุงและปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ก้าวไปข้างหน้าอย่างเดียวแบบไม่ลืมหูลืมตา เราสามารถที่จะค่อย ๆ ขยับขีดความสามารถเราไปทีละขั้นอย่างมั่นคง และที่สำคัญคือ สอนให้เราต้องคิดอย่างคนประสบความสำเร็จเป็นการสร้างให้เกิดแรงบันดาลใจ อันจะนำไปสู่การลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดความสำเร็จในอนาคต
“น้ำฝนจะนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรมหลักสูตรนางงามอัจฉริยะไปทำหน้าที่ของการเป็นตัวแทนสาวไทยในการประกวด Mrs. Globe 2023 ในทุก ๆ ด้านให้ดีที่สุด เพราะมีเวลาในการเตรียมตัวมากพอสมควร ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมและเป็นทีมเวิร์กในการผลักดันให้น้ำฝนมายืนตรงจุดนี้ได้”