ครอบครัวณรงค์เดช เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ยืนยัน”เกษม ณรงค์เดช” บริสุทธิ์ พร้อมเชื่อมั่นในความยุติธรรม!

News Update social

ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคุณหญิงกอแก้ว  กับพวก คดีเกษม ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทในเครือ เคพีเอ็น ฟ้องคุณหญิงปลอมลายมือชื่อโอนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ขณะที่  ทนายโจทก์ ลั่นเตรียมยื่นอุทธรณ์ ภายใน30 วันตามกฎหมาย ส่วนคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอนุญาให้เกษมเป็นโจทก์ร่วมในคดีแล้วนัดสืบพยานต้นปีหน้า ส่วนทนายเตรียมยื่นสิทธิอุทธรณ์ยันฟ้องตามข้อเท็จจริง

เวลา 10.00 น.วันที่ 5 ก.ค.ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีปลอมแปลงหุ้น หมายเลขดำอที่ 2497 2561 นายเกษม ณรงค์เดช ผู้ก่อตั้ง KPN เป็นโจทก์ฟ้อง คุณหญิงกอแก้ว  บุณยะจินดา ภรรยา พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ, นายณพ ณรงค์เดช บุตรชายคนกลางนายเกษม และนายสุรัตน์ จิรจรัสพร เป็นจําเลยที่1 ถึง3 ตามลำดับ ฐาน ร่วมกันใช้เอกสารที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นการโอนหุ้นของนายเกษมให้คุณหญิงกอแก้ว

ด้านนายมนต์อนันต์ เรืองจรัส ทนายความของนายเกษม เปิดเผยภายหลังว่า “นายเกษม ณรงค์เดช และครอบครัวณรงค์เดช ขอยืนยันข้อเท็จจริงตามคำฟ้องทุกประการ และจะใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ นอกจากคดีนี้แล้วนายเกษม ณรงค์เดชยังได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อเพื่อดำเนินคดีกับนายณพ ณรงค์เดชและคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดากับพวกเกี่ยวกับการปลอมและใช้เอกสารปลอมอีกหลายฉบับ ซึ่งคดีดังกล่าวพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ 1708/2564 แล้ว ศาลนัดสืบพยานในต้นปีหน้า โดยนายเกษม ณรงค์เดชได้รับอนุญาตจากศาลให้เข้าไปเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการด้วยแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า และในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสูงสุดยังได้ยื่นฟ้องคุณหญิงกอแก้ว นายณพ เป็นจําเลยต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม โอนหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 83, 91, 264, 265, 268 เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1708/2564 โดยจำเลยมีการสมคบคิดกันปลอมลายมือชื่อนายเกษมและตกลงใช้ตราสารการโอนหุ้นและเอกสารต่าง ๆ โอนหุ้นที่นายเกษมถือครองให้คุณหญิงกอแก้ว บุญยะจินดาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเอกสารทั้งหมดได้รับการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าเป็นลายเซ็นปลอมของนายเกษม ณรงค์เดช ทั้งสิ้น ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล