นายกฯ เปิดงาน ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง

News Update social

วันนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 14.00 น. ณ อาคารเอ็กซิบีชั่น ฮอลล์ 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เพื่อเผยแพร่ความสำเร็จในการดำเนินงานของกองทุนฯ ตลอดระยะเวลา 20 ปี พร้อมมอบรางวัลให้กับสมาชิกกองทุนต้นแบบ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และเป็นตัวอย่างแก่สมาชิกให้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีต่อไปในอนาคต โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เข้าร่วมด้วย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชื่นชมการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ พร้อมกับชื่นชมสมาชิกกว่า 13 ล้านคน ที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานในระดับพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพจนกระทั่งเห็นผลสำเร็จ คือ ชุมชนมีรายได้เสริมหมุนเวียนในพื้นที่ ประชาชนในชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ยืนยันรัฐบาลจะช่วยผลักดันและสนับสนุนกิจกรรมของกองทุนฯ ผ่านการจัดสรรงบประมาณการดำเนินโครงการตามแนวทางสร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง ส่งเสริมกองทุนฯ ให้เดินหน้าสู่ความเข้มแข็ง ปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีการให้เท่าทันต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลพร้อมให้เครื่องมือสนับสนุน เพื่อพี่น้องทุกคนอยู่ดีกินดี มีอาชีพที่มั่นคง และมีความสุขอย่างยั่งยืน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ทำการปักธงสัญลักษณ์เปิดงาน แสดงถึงความสำเร็จของการดำเนินงานกองทุนฯ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และพร้อมสานต่อความสำเร็จสู่ทศวรรษที่ 3 เพื่อให้ประชาชนในชุมชนทั่วไทยมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิตทุกด้าน ผ่านการสนับสนุนของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมตลาดกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทั่วประเทศรวมถึงนิทรรศการ 3S “สร้างเศรษฐกิจฐานราก สร้างชาติมั่นคง ให้ความรู้แนวทางนโยบายแก้จน สร้างงาน สร้างเงินในอนาคต เช่น โครงการภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCG โมเดล 4 ด้าน (เกษตร-อาหาร, พลังงาน-วัสดุ, สุขภาพ-การแพทย์ และ ท่องเที่ยว) โครงการ ข้าวรักษ์โลก เกษตรอัจฉริยะ และโครงการโคนำร่องสู่โครงการ “โคล้านครอบครัว”

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ดําเนินการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากมากมายหลายโครงการ และวันนี้รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาปากท้องของสมาชิกกองทุนเป็นอันดับ 1 จึงได้จัดทำโครงการ “โคล้านครอบครัว” เพื่อสร้างอาชีพให้กับพี่น้องสมาชิกกองทุน โดยได้จัดสรรงบประมาณและเจรจากับธนาคารเพื่อขอให้ปล่อยสินเชื่อไปยังกองทุนหมู่บ้านต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกกองทุนสามารถกู้ยืมซื้อโคแม่พันธุ์ได้ 2 ตัว/ครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 50,000 บาท ปลอดดอกเบี้ยระยะเวลา 3 ปี ซึ่งแม่โคใช้เวลา 1 ปี สามารถให้ผลผลิตเป็นลูกโค จากนั้นลูกโคยังสามารถให้ผลผลิตได้อีกต่อเนื่อง

คาดว่าภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี สามารถขยายพันธุ์โคได้เฉลี่ย 6 ตัว สร้างรายได้กว่า 150,000 บาท/ปี “ยิ่งนานวันยิ่งเพิ่มทวีคูณ” หากเลี้ยงดูดี ๆ ในระยะเวลา 6 ปี อาจสร้างรายได้หลักล้านให้แก่สมาชิก ส่วนสาเหตุที่เป็นการเลี้ยงโคนั้น เนื่องจากโคเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ทำได้เลย ทำได้จริง ไม่ต้องใช้ทักษะฝีมือ แต่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

นายอนุชาฯ กล่าวต่ออีกว่า การที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน ต้องให้ความสำคัญกับภาคเกษตร เพราะถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นเกษตรกร ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ คนกลุ่มนี้ต้องได้รับการส่งเสริมสนับสนุน และแนะแนวทางประกอบอาชีพที่ถูกต้องเหมาะสม จึงจะส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งนำไปสู่การสร้างชาติอย่างมั่นคงได้ ในขณะเดียวกันสมาชิกที่พร้อมก็ต้องมีการปรับตัวสู่การทำธุรกิจในยุคดิจิทัล เพื่อที่จะมีส่วนช่วยในการขยายโอกาสทางการค้า ให้สามารถสร้างรายได้เข้ากองทุนอย่างยั่งยืนได้อีกทางหนึ่ง

นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า งาน “ก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง” จัดขึ้น 3 วัน ตั้งแต่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งทาง สทบ. ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ สร้างอาชีพ เสริมทักษะอนาคตให้กับสมาชิก ภายในงานจึงมีการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ด้านการเงิน การพัฒนาสินค้า และมีกิจกรรมเสริมทักษะด้านดิจิทัลสำหรับกองทุนคนรุ่นใหม่ โดยมีการแข่งขันทดลองขายสินค้าจริงหลังจากเรียนเสร็จ ชิงทุนการศึกษา 30,000 บาท เพื่อให้ได้ฝึกลงสนามจริง เตรียมความพร้อมรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึง สทบ. ได้เชิญภาคีเครือข่ายกองทุนเข้าร่วมงาน

อาทิ บริษัททิพยประกันภัย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กองทุนการออมแห่งชาติ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) การส่งเสริมด้านการบริหารจัดการขยะรีไซเคิลเพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชน (Community waste model)

 

นายเบญจพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้มีสมาชิกกองทุนฯ ทั่วประเทศ เดินทางมาร่วมงานกว่า 4,000 คน โดยสมาชิกได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนแนวคิดในการทำงาน ถือเป็นการรวมพลัง สร้างสามัคคี มีทัศนคติในการแบ่งปันสิ่งดีๆ ตามแนวทางการที่จะทำให้เศรษฐกิจฐานรากเดินหน้าและประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในชุมชนและทุกภาคส่วน เพื่อให้ทุกคนพร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าร่วมกัน สร้างชาติเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป

Prime Minister chairs “The National Village and Urban Community Fund moving forward to the 3rd decade” event to appreciate fund member’s work, promises to push forward Grassroots Economy to build a sustainable nation

Today (10 February, 2023) 14:00, Exhibition Hall 6, IMPACT Arena Exhibition & Convention Center, Muang Thong Thani, Pak Kret district, Nonthaburi province, General Prayuth Chan-o-cha, Prime Minister of the Kingdom of Thailand and Defence Minister presided over the opening ceremony “The National Village and Urban Community Fund moving forward to the 3rd decade,” hosted by The National Village and Urban Community Fund Office to publicize the project’s success over the last 20 years. The Prime Minister also awarded outstanding fund members to encourage and set good example for other members to keep up good progress. Deputy Prime Minister and Committee Chairman of The National Village and Urban Community Fund Office Mr. Supattanapong Punmeechaow, Interior Minister General Anupong Paochinda and Prime Minister’s Office Minister Anucha Nakasai, official overseeing the Village Fund joined the event.

General Prayuth Chan-o-cha, Prime Minister of the Kingdom of Thailand and Defence Minister praised over The National Village and Urban Community Fund Office’s success in strengthening the Grassroots Economy which is key fundament in developing the country. 13 million other members were appreciated for bringing together their full potentials and driving local operations to full success, allowing each local community to gain supplemental income revolving in the community. People in community become self-reliant and live more sustainably as a result. General Prayuth insisted the government will encourage and offer needed supports to all activities by the Village Fund through budget allocation using the “Grassroots Economy for stronger nation” approach. The Village Fund will be driven forward, strengthened and continuously adjusted in order to meet the rapidly changing world. The government is ready to provide supporting tools so everyone in the community can enjoy living and working sustainably.

The Prime Minister flagged off the ceremony to mark the project’s success over the past 20 years before moving forward into its 3rd decade to ensure that all Thai people in different communities have sustainable living in every aspect. The Prime Minister and committee then visited the Village Fund Expo which consists of goods and products from villages around the country, the 3S Expo “Grassroots Economy for stronger nation” which aims at finding solutions for poverty, finding sustainable career and wealth, the BCG economy model which includes 4 sectors (food-agriculture, energy-materials, health-wellness and tourism), the Thai Rice NAMA Project, the Smart Farm and the “Ko Lan Krobkrua” (Million cattle families)

Prime Minister’s Office Minister Anucha Nakasai, official overseeing The National Village and Urban Community Fund said, the government led by General Prayuth Chan-o-cha, Prime Minister of the Kingdom of Thailand and Defence Minister has been working on various projects through The National Village and Urban Community Fund to strengthen the Grassroots Economy. Today the government continued to focus on solving poverty problem for fund members as their number one priority. The “Ko Lan Krobkrua” project is therefore introduced with purpose to build career and stimulate employment for the fund members.

The government has allocated budget and negotiated with banks, requesting loans to be released to different village funds. Fund members can borrow to purchase up to 2 breeding cattle, not exceeding 50,000 baht per household, free of interest for a period of 3 years. It takes a year for a cow to yield a calf before the calf can continue to reproduce. It is estimated that within a period of not more than 3 years, an average of 6 cattle can be bred, generating incomes of more than 150,000 baht per year. “The longer, the higher the production can double” If raised properly, within 6 years fund members could generate millions in revenue. A good reason for raising cattle is because cattle are easy to take care of. It can be practically achieved without requiring any complicated skills and can generate substantial income.

Mr. Anucha also stated that in order to sustainably drive the Grassroots Economy, the government needs to emphasize on agricultural sector which is key fundament to push forward the country’s Grassroots Economy since most of the country’s population are farmers, they are considered country’s main purchasing power. This group of people must be encouraged, supported, and guided to pursue the right careers in order to strengthen the Grassroots Economy and sustainably build a strong nation. At the same time, other more-ready members need to adapt themselves in doing business in the digital era in order expand business opportunity as it could be an additional way to generate income for the Village Fund.

Mr. Benjapol Nakprasert, Director of the National Village and Urban Community Fund said “The National Village and Urban Community Fund moving forward to the 3rd decade” event is held for 3 days from 10-12 February. The Village Fund focuses on educating, creating careers, and enhancing future skills for its members. Therefore, seminars on financial knowledge, product development and digital skill enhancement activity are held at the event. Participants can join a competition to practice selling real product after completing the seminar to win a scholarship worth 30,000 baht in order to get themselves ready for the rapidly changing world. The Village Fund also invited following partners to join the event – Dhipaya Insurance, the Government Savings Bank, Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives (BAAC), the Office of SMEs Promotion, the National Savings Fund, PTT Global Chemical Public Company Limited and Circular Living, promoting the management of recyclable waste to generate income for the community.

Mr. Benjapol added that over 4,000 fund members around the country have gathered to join the ceremony. Members have opportunity to exchange ideas for work, unite their strengths and build positive attitudes towards good directions. To successfully keep the Grassroots Economy moving forward, we need everyone, every community and every sector to collaborate and sustainably grow together as a strong nation.