“พะงัน” เตรียมเปิดบ้าน จัดเทศกาล Awakenest Festival ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก หลอมรวมพลังจันทราสร้างแรงบันดาลใจ  

Lifestyle News Update Travel

เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชาวเกาะพะงันได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดการแถลงข่าว งาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา” โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่อย่าง สมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน สเตย์ฟลายสตูดิโอ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย บริเวณลานตัวหนอน ท้องศาลา อำเภอเกาะพะงัน สุราษฎร์ธานี ท่ามกลางพลังแห่งจันทราที่หลอมรวมผู้คนเข้าด้วยกันตอกย้ำอัตลักษณ์ของเกาะพะงันไปพร้อมกับเปิดมุมมองใหม่เพื่อประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นเพื่อสุขภาวะองค์รวมและความยั่งยืน กับธรรมชาติ ชีวิตและวิถีชุมชน 

Day 1

… โดยเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนรวมตัวกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางโดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ลงตรงยังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ก่อนจะลงเรือต่อไปยังเกาะพะงัน โดยเรือขนาดใหญ่ ทันสมัยและปลอดภัยของ Lomprayah High Speed Ferries Co,Ltd ภายใต้การบริหารงานของคุณวนิชชา สุขเชตุ Secretary to the President Marketing Manager ภายในเรือมีโซนหลายโซนให้นักท่องเที่ยวได้เลือกนั่งพักผ่อน ทั้งดาดฟ้ารับแดดรับลมกันเต็มๆ หรือจะอยู่ในห้องแอร์ หรือจะเป็นโซนวีไอพีที่มีเอาไว้สำหรับไพรเวทแอร์เรีย ก็มีให้เลือก

และแล้วก็มาถึงเกาะพะงัน การเดินทางก็เริ่มขึ้น สถานที่แรกของวันคือ…

ร้าน NIRA’S HOME BAKERY มีโอกาสได้ชิม ข้าวผัดปลาทู นอกจากจะนำปลาทูมาผลัดคลุกเคล้าเข้ากันกับข้าวนุ่มๆแล้ว นำปลาทูฉีกเนื้อครึ่งซีกวางบนข้าวสวย ยังมีเครื่องเคียงเอาไว้ให้ปรุงรสด้วย หอมกรุ่นชวนทาน เสริฟพร้อมกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่บอกว่าให้ความสดชื่นเป็นอย่างมาก

ที่นี่เราได้พบกับ คุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยว เกาะพะงัน  คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย

โดยคุณศิราณี อนันตเมฆ ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันหนึ่งในคณะจัดงาน บอกว่า “การที่เราอยู่ในโลกใบนี้กับทุกสิ่งที่มีความจำเป็นในชีวิต ที่เราคิดว่ามีความจำเป็น จนเราลืมบางอย่างในชีวิตไป วันนี้จะเป็น Journey ที่ให้คุณเดินทางเข้ามาค้นพบในตนเอง แล้วเริ่มมองว่าชีวิตที่สมบูรณ์กับความสุขข้างในจะก่อให้เกิดความสุขข้างนอก และก่อให้เกิดการดำเนินชีวิตที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน

สิ่งหนึ่งที่จะเห็นในค่ำคืนนี้ คือ เป็นการผสมผสานระหว่างอาร์ตติสจากทั่วโลกที่อยู่บนเกาะพะงันมาร่วมคอมบายด์   กินห่อก่อกำเนิดฟูลมูน ซึ่งวัฒนธรรมการกินห่อ เป็นการกินอาหารร่วมกันหลังจากทำงานท่ามกลางแสงจันทร์ ซึ่งมีนานหลายสิบปีของชุมชนที่นี่และ….” และอีกมากมายที่ได้รับรู้

… “เดี๋ยวเราไปเช็คอินเข้าโรงแรมกันก่อนนะคะ” เจ้าหน้าที่ททท.บอกกับเรา

วันนี้เราเข้าพักกันที่โรงแรม จันทรมาส โรงแรมที่สวยงามทั้งบรรยากาศและชายหาด  บริหารงานโดยคุณฉันทนา ลิ้มสุวรรณ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นช็อปที่นำสินค้าน่ารักๆ มาไว้บริการ มีมุมสปา มุมฟิตเนส สระว่ายน้ำ มุมสันทนาการของห้องอาหารริมหาดขาวนวล บอกเลยว่า มันว้าว! มากกกก

นอกจากนี้ยังแบ่งอีกกลุ่มหนึ่งเข้าพักที่ โรงแรมแม่หาดเบย์ รีสอร์ท 

Happy – Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา

บริเวณถนนเลียบชายหาด ท้องศาลา วันนี้มีการจัดตลาดนัดด้วยจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนชาวพะงัน ร้านรวงส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นถิ่น ผลไม้หลากชนิดและเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึก

ใกล้กันบริเวณ ลานตัวหนอน ถูกเนรมิตให้เป็นลานจัดการแถลงข่าว Happy – Healthy Phangan เกาะแห่งพลังจันทรา พื้นที่แบ่งเป็นโซน มีการออกบูธจัดแสดงงานวิถีพื้นถิ่น มีการแสดงดนตรีโดยศาสตร์ ปรับสมดุลด้วยความถี่เสียงและแสง (Sound Healing Journey) การฝึกลมหายใจ (Breathwork) รวมทั้งการเเสดงศิลปะ วัฒนธรรมไทย อาทิ รำโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง ด้านวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นเพื่อสุขภาพ และการสาธิตการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติและงานแสดงผลงานศิลปะแขนงต่างๆ

การตระเตรียมลานสำหรับรับพลังแห่งจันทรา เป็น Circle และก่อนจะเริ่มงาน ได้มีการจัดกินห่อ ซึ่งเป็นวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเกาะพะงัน อาหารที่เราล้อมวงนั่งกินห่อ เป็นอาหารพื้นถิ่น ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดฟูลมูนปาร์ตี้

กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2531 เป็นปาร์ตี้ที่เริ่มขึ้นจากมิตรภาพ ความรัก ความผูกพันของชาวบ้านกับนักท่องเที่ยวที่มาพักอาศัยเลี้ยงส่งเพื่อนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในเกาะพะงัน โดยพาราไดซ์ บังกะโล หาดริ้น เป็นสถานที่แรกที่ฟูลมูนปาร์ตี้จัดขึ้น โดยคุณสุทธิ เกื้อสกุล

ครั้งนั้นจัดงานเลี้ยงส่งแฟนสาวและเพื่อนที่มาพักที่บังกะโล มีการทำอาหาร ปิ้งปลา ก่อกองไฟเล็กๆ หน้าชายาด เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านทำกันเป็นประจำหรือที่เรียกกันว่า กิจกรรมกินห่อ ประกอบกับคืนนั้นเป็นคืนขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวง ทุกคนต่างดื่มด่ำกับบรรยากาศและเต็มไปด้วยความสนุกสนา ร้องเพลง เล่นดนตรี หลังกจากนั้นก็มีการจัดขึ้นอีกในวันขึ้น 15 ค่ำของเดือนถัดมา เพื่อรำลึกถึงเพื่อนๆ บรรยากาศ เดิมและต่อมาก็ขยายพื้นที่สร้างความสนุกสนานกันตลอดมา

และวันนี้เราก็มีโอกาสนั่งร่วมวง ชิมอาหารแบบกินห่อของชาวเกาะพะงัน ซึ่งประกอบด้วย หมูโค ซึ่งสมัยก่อนไม่มีตู้เย็นการถนอมอาหารที่ทำได้และเก็บไว้ได้นาน คือ หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่เกลือแล้วใส่น้ำตั้งไฟ เคี่ยวจนกระทั่งแห้ง น้ำในหมูกับน้ำมันหมูก็จะอกมา น้ำมันติดกระทะเอาข้าวลงไปคลุกก็ได้ข้าวผัดมันหมูอีก

ถัดมาเป็นยำสาหร่ายข้อกับหอยกลม การหาหอยกลมเป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านแถบตะวันตกของเกาะนิยม ยามน้ำทะเลหน้าบ้านลดลง ส่วนสาหร่ายข้อมีค่อนข้างจำกัด ถ้าน้ำสูงหน้าลมว่าช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมจะหายาก สาหร่ายข้อเป็นอาหารปลาบางประเภทด้วย มีรสชาติอร่อย นำมายำกับมะพร้าวทึนทึก มะพร้าวคั่ว ใส่มะขามเปียก

นอกจากนี้ยังมี วายต้มยอดมะขาม โวยวายหรือปลาหมึกสายประจำถิ่นที่พะงัน พันธุ์ที่นำมาต้มนี้ใช้วายทรายหรือวายแดง พบในรูปโขดหินน้ำตื้น  ปลาคั่ว เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของคนพะงัน

นอกจากนี้ยังมีชะลอมนำใส่ขนมรวมกันมาให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นขนมขี้หมาต้วง ขนมโบราณของชาวเกาะ ขนมไข่ปลา ขนมเทศกาลทำบุญเดือนสิบหรือวันตายาย ขนมเหนียวกวน ขนมถั่วแปบไส้มะพร้าวทึนทึก

“เชิญนั่งล้อมวงเลยคะ กินห่อกัน” พี่โป่ง เรียกให้เราจับจองที่นั่งล้อมวงเติมข้าวกันอย่างสนุกสนาน

หลังจากนั้นพิธีการต่างๆ จึงเริ่มขึ้น ณ บริเวณ ลานตัวหนอน สถานที่ถูกจัดเป็นวงกลม การแสดงดนตรีแผ่วเบาจากชาวต่างชาติ ผสมผสานกับดนตรีที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมแดนใต้ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์รำมโนราห์ รำตาลีกีปัด หนังตะลุง การเล่นดนตรีไทย ร้องดนตรีไทยผสานดนตรีสากล การร่ายรำเพื่อรับพลังจากแสงจันทรา

คุณกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุย เล่าว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของเกาะพะงันที่ไม่ได้มีแค่ฟูลมูนปาร์ตี้ แต่พะงันยังมีวิถีชุมชน วิถีชาวเล วิถีมะพร้าวที่นี่ได้รับจีไอของประเทศไทย เรามีประเพณีกินห่อ หลังจากทำงานเสร็จก็จะมานั่งทานอาหารร่วมกัน และในวันนี้เรามาเที่ยวเกาะ จะมีหาดทรายที่สวยงาม ช่วงที่ไม่มีปาร์ตี้ ทรายขาวละเอียดอย่างไร

ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกธารเสด็จ ที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นถึงสิบครั้ง วิถีชุมชนในส่วนของการนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติให้สวยงาม ยั่งยืนเพื่อลูกหลานต่อไปในอนาคต

นอกจากนั้นแล้วที่นี่เป็นเหมือนชุมชนที่รวมพลังจากคนทั่วโลกที่เข้ามาหลอมรวมอยู่ร่วมกัน เราเคยเป็น workation ที่เป็น work peace นอกเหนือจากที่ทำงานปกติ ติดอันดับหนึ่งของโลกมาแล้ว ว่าทำไมคนจากทั่วโลกจึงเลือกที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ มารวมกลุ่ม มาเป็นชุมชน มาเป็นครอบครัวเดียวกันที่นี่ จากต่างชาติต่างภาษา

อีกทั้งเรื่องของอาหารการกิน ด้วยวัตถุดิบคุณภาพของพื้นถิ่น อาหารทะเลสดๆ ผักผลไม้สดๆ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้สุขภาพของเราดีทั้งกายและใจ ที่นี่ถือว่าเป็นเกาะแห่งแรงบันดาลใจ ซึ่งนอกเหนือจากจุดหลัก ของจุดขายเรื่องฟูลมูน พลังแห่งจันทรา มารับพลังเพื่อไปทำงานต่อ พลังต่อไปในการต่อสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในชีวิต

มาพะงันแล้วจะรู้สึกถึงวิถีที่เรียบง่าย มาแล้วทุกคนจะหลงรัก …พะงัน”

…. เมื่อแสงแห่งจันทราเจิดจรัส พลังแห่งแรงศรัทธาก็ถาโถมกลางใจ นานนับชั่วโมง จากเสียงดนตรีกระแทกกระทั้น สลับแผ่วเบา หลายคนเริ่มปลดปล่อย จิตวิญญาณ ผ่านจังหวะของดนตรี ผู้คนจากทั่วสารทิศ ทั่วทุกมุมโลกที่อาศัยอยู่บนเกาะพะงัน ต่างเดินทางมาร่วมงาน ดื่มด่ำหลอมรวมหัวใจไว้ด้วยกัน

นับเป็นครั้งแรกของการได้เห็นถึงพลังศรัทธาที่หลอมรวมจิตวิญญาณของผู้คนที่มารวมกันที่นี่ บอกเลยว่า พลังแห่งจันทรา แรงกล้าจริงๆ

ด้าน คุณ สาว ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงเเรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่าเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กิจกรรมฟูลมูนปาร์ตี้สามารถดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้มาเยือนเกาะพะงันเป็นเวลากว่า 35 ปี

ทั้งนี้ เกาะพะงันยังมีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ภูเขา ทะเล หาดทรายและน้ำตกที่มหัศจรรย์ ชุมชนชาวพะงันยังมีวิถีชาวเกาะที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น ความเชี่ยวชาญ ที่หลากหลาย รวมถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชุมชน เหล่านี้ที่ทำให้เกาะพะงันคงมนต์เสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน มากขึ้นทุกปี

เกาะพะงันยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนในมิติจิตวิญญาณและสุขภาวะองค์รวม (Spiritual, Wellness and Well-being) ยังจะเห็นได้จากการที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาค้นหาตัวตน และจิตวิญญาณอันล้ำลึก มาเรียนรู้ผ่านศาสตร์ และศิลป์ เยียวยาบำบัด รวมถึงเชื่อมโยงกับตัวเองผ่านเส้นทางแห่งจิตวิญญาณและธรรมชาติเพื่อสมดุลแห่งสุขภาวะองค์รวม

“หลังวิกฤติโควิด-19 การดูแลสุขภาวะองค์รวม กายและใจเป็นทางเลือกที่สังคมโลกหันกลับมาใส่ใจมากขึ้น กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเกาะพะงันจึงต้องการที่จะสร้างภาพความทรงจำและประชาสัมพันธ์เกาะพะงันในอีกมิติหนึ่ง นอกเหนือจากภาพเทศกาลฟูลมูนปาร์ตี้ เพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงันที่ยั่งยืน โดยมีสุขภาวะทางใจและกายที่สมดุล

นอกจากนี้ยังสร้างให้เกาะพะงันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผสมผสานความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของชุมชนชาวพะงันให้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันวิถีชาวเกาะ เช่น วัฒนธรรม อาหาร ศิลปะการเเสดง ดนตรี ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย มีความเป็นเอกลักษณ์ ให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม รวมทั้งกระจายรายได้ให้ชุมชนเกาะพะงัน”

… ค่ำคืนนี้ จึงเป็นค่ำคืนที่บอกเลยว่า อะเมซิ่งคะ สุดอะเมซิ่งจริงๆ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกกับการร่วมงาน นี่ขนาดแค่งานแถลงข่าวยังจัดเต็มและยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แล้วเมื่อถึงวันเทศกาลในต้นปีหน้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนหนอ ( เราแอบคิดในใจ)

Day 2

… เช้าวันใหม่ การตระเวนรอบเกาะพะงันเพื่อสัมผัสวิถีของชุมชน เริ่มขึ้นที่แรกคือไปยังท่าเรือ โฉลกหลำ บริเวณใกล้เคียงมีร้านรวงจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง หมึกกะตอยแห้ง ปลาอินทรีย์ ร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ แต่ด้วยเพราะหมึกกะตอยแห้งที่นี่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก ทำให้มีการจับจองกันจน …

“เหลืออยู่ถุงเดียวคะ”

นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพาไปหาแหล่งจำหน่ายใหม่ ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง ไม่ไกลกันนัก รถตู้ก็พาเรามาหยุดณ บ้านหลังหนึ่ง เรียกว่าเข้าหลังบ้านกันเลยทีเดียว เพราะที่นี่มีสินค้าที่หลายคนอยากได้ เสียงต่อรองราคากันโขมงโฉงเฉง

“หนูเอาโลนึง”

“ซื้อโลแล้วมาแบ่งกันมั๊ย”

“ปลาอินทรีย์น่าทานมากกก”

สมาชิกคณะเดินทางส่งเสียงกันฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง

ไร่เตียวิเศษ

หลังจากอุดหนุนชุมชนกันคนละถุงสองถุง เราก็เดินทางกันต่อไปยัง ไร่เตียวิเศษ RAITIAVISET ORGANIC FARM

ที่นี่ คุณดวงเด่น เตียวิเศษ พาคณะเดินชมพลางเล่าให้ฟังถึงที่มาของ ไร่เตียวิเศษว่า  “เมื่อ 14 ปีก่อน เริ่มจากการทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน มองว่า เรามีพื้นที่ว่าง 3 ไร่ ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์และลดค่าใช้จ่ายได้ ก็เริ่มปลูกผักแล้วหลังจากนั้นก็ไปอบรมเรื่องการปลูกผัก โชคดีได้เจออาจารย์จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปี 2560 ก็รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จีพีเอสเกาะพะงัน และอบรมให้กลุ่มสมาชิกของเรา ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกสิบราย มีการรวบรวมผลผลิตมาวางขายที่ไร่เตียวิเศษ

ภายในไร่แบ่งโซนเป็นฐานเรียนรู้ทั้งหมด 11 ฐาน มีบ้านที่อยู่อาศัยและบ้านเช่าห้าหลัง ในพื้นที่ที่เราทำเกษตรอินทรีย์แนวคิดเกษตรพอเพียง มีเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่โดยผักตบชวา มีการทำน้ำมันมะพร้าว ทำผลิตภัณฑ์ มีช็อปสำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท็อป ผลิตภัณฑ์น้ำมันตะไคร้ไล่ยุง ฐานทำน้ำหมักชีวภาพ  ซึ่งทางไร่เน้นการหมุนเวียนทรัพยากรที่เหลือใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือไม่ให้เหลือทิ้ง”

หลังจากคณะเยี่ยมชมและอุดหนุนผลิตภัณฑ์เรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง Longtail Beach Resort  ที่นี่ห้องหับส่วนใหญ่จะถูกตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหลือใช้ ทั้งโคมไฟ ที่แขวนเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาจากงานแฮนด์เมดแทบทั้งสิ้น ที่นี่เปิดบริการมานานและเป็นหนึ่งในสถานที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยวที่มาอยู่เกาะพะงันและติดเกาะอยู่ในช่วงโควิด รวมถึง “จันทรมาส” รีสอร์ทแอนด์สปา ของคุณฉันทนา นายกสมาคมฯ และโรงแรมแม่หาดเบย์ รีสอร์ท ภายในเกาะพะงัน ด้วย

ช่วงเดินเลาะเลียบริมหาดของ Longtail Beach Resort คุณนฤมล ใหม่โสภา ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเกาะพะงัน อดีตนายกสมาคมโรงแรมฯ เล่าให้ฟังถึงการจัดการในช่วงโควิด ปี 2562 ว่า “ในช่วงโควิด มีนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่บนเกาะพะงันราวสองพันกว่าคน เขากลับประเทศไม่ได้ ทางสมาคมฯ จึงร่วมกับทางหน่วยงานของรัฐ ดูแลเรื่องที่พักโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูแลเหมือนเขาเป็นคนในครอบครัว ปลูกผักก็ปลูกด้วยกัน เก็บผักไปทำอาหารด้วยกัน

เกาะพะงันไม่เคยปิด ยังเปิดรับตลอดเพียงแต่มีเครื่องสแกนการเข้าออกเพื่อป้องกัน โดยเป็นงบของทางภาคเอกชนลงเงินช่วยกันซื้อเครื่อง โดยสแกนตั้งแต่ทางเข้าหน้าบ้านคือที่ท่าเรือ ทำเหมือนสนามบิน มีรายงานทุกวัน โดยแยกว่า คนไทยจำนวนเท่าไหร่ต่างชาติจำนวนเท่าไหร่

จึงมีการสำรวจเพิ่มเติมว่า มีฝรั่งตกค้างอยู่ที่เกาะพะงันจำนวนเท่าไหร่ พอทราบจำนวนจึงมีการหาอาหาร และหาอะไรให้เขาทำระหว่างนั้นเพื่อไม่ให้เครียด เราทำสองจุดคือ เรื่องดูแลที่อยู่ อีกจุดหนึ่งคือเพ้นท์สีบนมะพร้าว เป็นที่มาของ “อาร์ตติดเกาะ” ตลาดชื่ออาร์ตติดเกาะ

”อาร์ตติดเกาะ” นำเอาทางมะพร้าวที่มีหัวช่วงบนไปเพนท์เป็นหน้ากากหรือรูปคนเพื่อตกแต่งและนำฝรั่งไปเพ้นท์ ตอนนั้นฝรั่งไม่รู้จะทำอะไรก็นำไปเพ้นท์เพื่อผ่อนคลายและแลกกับการเลี้ยงชีพ มีการเลี้ยงอาหาร เป็นการช่วยเหลือกันและกัน  อีกกลุ่มหนึ่ง คือฝรั่งที่อยู่ในเกาะเราพาไปปลูกผักก็เกิด “ไร่วิถีพะงัน”

หลังจากนั้นพี่ก็ประสานไปทางททท. ซึ่งเราต้องดูแลคนกลุ่มนี้  จริงๆ เราจะมีการรวมกลุ่มตั้งวอร์รูมที่ท่าเรือ มีจุดที่จะแจกอาหารใกล้ท่าเรือหนึ่งจุด และทางสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงันจะสำรวจหมดเลย เราไม่เคยปิดเกาะ ใครเข้าก็ได้ แต่เรามีเครื่องมือในการสแกนคนเข้าเกาะ มีกลุ่มอสม. ภาครัฐเอกชนประชุมด้วยกัน และมีติดตามสำหรับประเทศกลุ่มสีแดง เหลืองเขียว มีระบบติดตาม ต้องทำรายงานให้อสม ทุกวัน

สิ่งที่เกิดขึ้น 3 สิ่งในช่วงโควิด และมาจนถึงปัจจุบัน คือ ไร่วิถีพะงัน อาร์ตติดเกาะ และ Community ของ workation  รวมถึงมีการตั้งทีม Trash Hero คือกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่รวมตัวกันช่วยกันเก็บขยะ จะมีกิจกรรมทุกๆ 15 วัน”

เสร็จสรรพก็เดินทางกันต่อ โรงแรมปานวิมาน โรงแรมระดับสี่ดาวแห่งแรกในเกาะพะงัน โดยมีจีเอ็มให้การต้อนรับ พร้อมดูแลสนับสนุนอาหารมื้อกลางวันหน้าตาสวยงามแบบ warmly welcome โดยเสริฟเป็น เมนู เมี่ยงคำ เสต็กปลากะพงซอสพริกแกง แกงเลียง ไข่ตุ๋นผักรวม ข้าวไรส์เบอร์รี่ ตามด้วยของหวาน กล้วยต้ม มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย งา

หลังจากนั้นไปเยี่ยมชมหาดทรายขาวที่ชื่อ หาดริ้น สถานที่จัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งมีการบริหารจัดการทำความสะอาดหาดทรายหลังจากการจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ โดยมีเครื่องมือนำเข้ามาประเทศเยอรมันในการทำความสะอาดพื้นผิวทรายเรียกว่า เข้ามาจะมองแทบไม่ออกเลยว่า เมื่อค่ำวานนี้ มีงานปาร์ตี้ที่มีคนจำนวนมากมายมากระโดดกันแทบเกาะถล่ม แต่เช้ามา กลับมองไม่เห็นสิ่งสกปรกใดๆ บนหาดทรายขาวนี้เลย ดูจะเป็นอีกหนึ่งอะเมซิ่ง สำหรับการได้พบเจอ

และสถานที่สุดท้ายสำหรับทริปนี้ เรามีโอกาสได้แวะเข้าไปที่ร้าน “ซาติมิ” ไอศกรีมที่ทำจากมะพร้าวจีไอของเกาะพะงัน รสชาติอร่อยมากก ขอบอก .. มีให้เลือกหลายรส ทำขึ้นมาแบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน นั่นทำให้ลูกค้าไม่ผิดหวังเมื่อเข้ามาลิ้มลอง

 

… ต้องบอกว่า การได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ งาน Happy – Healthy Phangan “เกาะแห่งพลังจันทรา” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเที่ยวเกาะพะงันของเราไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเรื่องของการเที่ยวในแบบธรรมชาติ แบบสุขภาพเพื่อสุขภาวะแบบองค์รวมและจิตวิญญาณ หรือจะเป็นการเที่ยวในแบบชุมชนวิถี หลายสิ่งที่เกิดขึ้น…หลายสิ่งที่ได้สัมผัส เผยให้เห็นถึงศาสตร์และศิลป์ของพะงันที่งดงามไม่ใช่เพียงแค่หาดทรายขาว …ทะเลแสนสวย …แต่หมายรวมถึงความน่ารักของชุมชนคนบนเกาะพะงันที่หลอมรวมความรักความหวงแหนแผ่นดินแห่งนี้เอาไว้ด้วยกัน

…และที่สำคัญ ในปลายเดือนมกราคม 2567  เกาะพะงัน เตรียมเปิดเกาะรับเทศกาล Awakenest Festival ยิ่งใหญ่ระดับโลกครั้งแรกของไทย ถือเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมแห่งศาสตร์และศิลป์ เพื่อบำรุงกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อการสร้างสมดุลอย่างยั่งยืน ให้ตัวเอง ชุมชน และธรรมชาติ

….  จะยิ่งใหญ่ อลังการขนาดไหน เมื่อผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจะมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อรับพลังแห่งแรงบันดาลใจ พลังแห่งแสงจันทร์ดังที่เราได้เห็นสัมผัสกับบรรยากาศเมื่อค่ำวาน … ความอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นทุกขณะของการได้ชม

… เอาเป็นว่า ลง book เอาไว้เรียบร้อย… จะพลาดได้ไง งานระดับโลกครั้งแรกของประเทศแบบนี้ มาแล้วบอกเลยว่า …คุณจะหลงรัก …พะงัน

_____________________