ลาคอสท์ (LACOSTE) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นสูงจากประเทศฝรั่งเศส โดยบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจำหน่าย แบรนด์ลาคอสท์ ในประเทศไทย เนรมิตค่ำคืนสุดพิเศษ เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ Lacoste Holiday Collection ประจำฤดูกาล Fall/Winter 2023 ต้อนรับฤดูหนาวด้วยลวดลายโมโนแกรม ในเฉดสีสุดสะดุดตาผสานโลโก้จระเข้ สะท้อนความเท่ ในสไตล์เออร์เบิร์นนิสต้า อันเป็นเอกลักษณ์ของลาคอสท์ เฉลิมฉลองเทศกาลอันอบอุ่นนี้ด้วยการจัดซิทดาวน์ดินเนอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ณ โซโห เฮาส์ แบงค็อก
ไม่ว่าจะเป็นเหล่าสาวกแบรนด์และลูกค้าคนพิเศษ เหล่าเซเลบริตี้ และดาราศิลปินสายแฟชั่น อาทิสุวิกรม อัมระนันทน์, แมทธิว ดีน, ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์, แอนนา เสืองามเอี่ยม ,มิกค์ ทองระย้า, เจ้าขุน – จักรภัทร วรรธนะสิน และ โฟร์ – ศกลรัตน์ วรอุไร ร่วมงาน พร้อมเหล่าเซเลบริตี้คนดังมากมาย ต่างร่วมเฉลิมฉลองและพร้อมใจกันสวมชุดเด่นในคอลเลกชั่นฮอลิเดย์นี้
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโอกาสที่แบรนด์ลาคอสท์ได้เปิดตัว Holiday Collection เป็นคอลเลกชั่นใหม่ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ถือเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษที่ทางแบรนด์จะถือโอกาส ขอบคุณทุกท่านที่รักและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลาคอสท์ตลอดมา
อเลซซานโดร โทมิโอ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ลาคอสท์ (Alessandro Tomio, LACOSTE PARTNERS & CATEGORY DIRECTOR) กล่าวเสริมว่า ในครั้งนี้ลาคอสท์ต้องการสร้างความประทับใจกับลูกค้าคนพิเศษในเมืองไทยอีกครั้งกับงานเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ และส่งต่อความสุขเหนือกาลเวลากับลาคอสท์ โมโนแกรมผ่านสีสันสะดุดตาของเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า รวมถึงแอ็กเซสเซอรีต่างๆ ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของลาคอสท์
คุณธันลดา โฆษิตสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย ผลิตภัณฑ์แบรนด์ลาคอสท์ประเทศไทย ได้กล่าวถึง ความพิเศษของคอลเลกชั่น FALL / WINTER 2023 นี้ว่า คือการนำเอา โลโก้จระเข้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงลีลาการตีเทนนิสของ มิสเตอร์เรอเน่ ลาคอสท์ นักเทนนิสระดับตำนาน ผู้เปรียบจระเข้ว่าเป็นเสมือนสัตว์ยอดนักสู้ที่ไม่รู้จักคำว่ายอมแพ้ หากย้อนเวลากลับไป มิสเตอร์เรอเน่ ลาคอสท์ คือผู้ที่สร้างแบรนด์ลาคอสท์ ด้วยเสื้อโปโลแขนสั้นที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้กับนักเทนนิส โดยในการออกแบบครั้งแรกก็ได้มีการปักสัญลักษณ์จระเข้ ที่ในเวลาต่อมาได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และทำให้ลาคอสท์นั้นเป็นที่จดจำได้ในทันที
สำหรับความเป็นมาของโลโก้จระเข้นั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากถึง 5 ยุคสมัย เริ่มต้นจากยุค 1930 ซึ่งเป็นการปรากฏผลงานขึ้นครั้งแรกด้วยดีไซน์ของโรเบิร์ต จอร์จ ศิลปินและเพื่อนสนิทของ เรอเน่ ลาคอสท์ ที่ไม่เพียงแต่จะนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นการร่วมมือกันทางศิลปะที่กำหนด DNA ของ ลาคอสท์มาเป็นเวลาหลายทศวรรษ จนนำมาสู่โลโก้ที่ใช้อยู่และเป็นที่จดจำในทุกวันนี้
ต่อมาในยุค 1970 ได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อใช้เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดกว้างและเข้าถึงทั่วโลก ก่อนจะทำให้ลาคอสท์ ก้าวขึ้นมาในฐานะแบรนด์ระดับโลก
หลังจากนั้นในยุค 1980 ได้นำสัญลักษณ์รูปจระเข้ เข้ามาผสานรวมกับจินตนาการจนนำมาซึ่งโลโก้ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เมื่อเข้าสู่ยุค 2020 ได้มีการตีความโลโก้ของยุค 80 ใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบจากครั้งแรกโดย Robert George
นอกจากนี้ยังมีโลโก้จระเข้อีกหลากหลายรูปแบบคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามคอลเลกชัน อันแสดงถึงวิวัฒนาการของโลโก้รูปจระเข้แห่งแบรนด์ลาคอสท์ และถึงแม้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย จากมือนักออกแบบที่มากมาย แต่สิ่งที่ยังคงอยู่เสมอและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา นั่นคือโลโก้จระเข้สุดคลาสสิก ที่ยังคงดูสง่างามดังเดิมท่ามกลางยุคสมัยต่างๆ จวบจนถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคอลเลกชั่นต่างๆ ของลาคอสท์น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ เช่นเดียวกับ Lacoste Holiday Collection นี้ ซึ่งยังคงไม่ลืมที่จะนำโลโก้ทั้ง 5 แบบมาใช้ ผสมผสานระหว่างผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลและผลิตภัณฑ์หลักอย่างเสื้อโปโล มิกซ์แอนด์แมทช์เพื่อให้เกิดความสนุกสนานและเฟสทีฟมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเฉลิมฉลองช่วงปลายปี
โดยเฉพาะลวดลายโมโนแกรมที่ออกแบบโดยนำเอาตัว “L” อักษรย่อจาก Lacoste มานำเสนอในรูปแบบลายโมโนแกรมที่ทันสมัยในมุมมองสามมิติ ด้วยความโดดเด่นสะดุดตาและน่าสนใจของลายพิมพ์โมโนแกรมนี้จึงทำให้เป็นที่รู้จัก ทั้งยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย ตลอดฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า หมวก รวมถึงแอ็กเซสเซอรีต่างๆ เรียกได้ว่า Lacoste Holiday Collection คือคอลเลกชั่นที่เหมาะแก่การสวมใส่และส่งมอบให้เป็นของขวัญอันทรงคุณค่าแก่ผู้รับได้อย่างดีที่สุด
สำหรับงานเลี้ยงในค่ำคืนสุดพิเศษเพื่อเปิดตัวคอลเลกชัน Lacoste Holiday ของแบรนด์ลาคอสท์ในประเทศไทย พร้อมเสิร์ฟเมนูพิเศษ ซึ่งได้รับการรังสรรค์มาโดยเฉพาะจากเชฟชั้นนำของโซโห เฮาส์ แบงค็อก เพื่อสำหรับแขกคนสำคัญของงาน นอกจากนี้ ผู้ร่วมงานยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟมากมาย ทั้งกิจกรรมเพ้นท์แก้วไวน์หลากสี ที่ดึงพลังจินตนาการของผู้ร่วมงานออกมาผ่านผลงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล
กิจกรรมถ่ายรูปในโฟโต้บูทที่แสนครีเอทีฟเป็นที่ระลึก พร้อมลวดลายโมโนแกรมเป็นฉากหลัง และบรรยากาศอันอบอุ่นภายในงานที่จะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของแบรนด์จากอดีตสู่ปัจจุบัน กับของขวัญชิ้นพิเศษจากลาคอสท์มอบให้ในโอกาสส่งท้ายปีที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานอย่างไม่รู้ลืม
สามารถติดตามเราและสมัครเป็นสมาชิก Le Club เพื่อรับข่าวสารประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ รวมทั้งคอลเลกชันล่าสุดของเรา ได้ที่ www.lacoste.co.th