นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ดีอี ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และพันธมิตร จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 44 ราย แบ่งเป็น ตัวการ 20 รายและบัญชีม้า 24 ราย พร้อมของกลางและสิ่งของที่ตรวจยึดจำนวน 1,913 รายการ มูลค่าประมาณ 69 ล้านบาท ดังนี้
- เงินสด พร้อมตู้เซฟนิรภัย รวมจำนวน 8,754,580 บาท
- เครื่องนับธนบัตร รวมจำนวน 2 เครื่อง
- สร้อยทองพร้อมพระเลี่ยมทอง รวมจำนวน 5 เส้น
- ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หนักประมาณ 65 บาท (ปัจจุบันรับซื้อราคาบาทละ 36,600 บาท)
มูลค่าประมาณ 2,379,000 บาท - กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม (“GG”,”LV”) รวมจำนวน 20 รายการ
- โฉนดที่ดิน (อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 34 ไร่ และ จ.มหาสารคาม 5 ไร่)
- กระบือพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ชื่อ จ้าวเพชรสาเกต และมีตังค์ รวม 2 ตัว ราคา 5,600,000 บาท
- กระบือสวยงาม และ โค พันธุ์บารห์มัน รวมจำนวน 22 ตัว
- รถยนต์(Audi, Audi TT , Mini cooper clubman , BMW X4 ,Toyota ,Toyota Alphard, Honda civic, Hyundai STARIA, Ford Everest, Ford ranger ) รวมจำนวน 10 คัน
- รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
- รถจักรยานยนต์ (ยี่ห้อ BMW, Honda Click) จำนวน 2 คัน)
- รถ ATV จำนวน 2 คัน
- อาวุธปืน (GLOCK 19,ลูกซอง Remington, แบลงค์กันและบีบีกัน 2 กระบอก, Smith & Wesson)
และเครื่องกระสุนปืน รวมจำนวน 6 กระบอก - สมุดบัญชีธนาคาร (เป็นบัญชีม้ารวมจำนวน 928 เล่ม)
- บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ATM (ไว้กดเงินบัญชีม้ารวมจำนวน 675 ใบ)
- โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต รวมจำนวน 596 เครื่อง
- ซิมการ์ดพร้อมใช้ รวมจำนวน 441 ชุด
- พาสปอร์ตคนต่างด้าว รวมจำนวน 76 ชุด
- ชุดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 13 เครื่อง
รัฐมนตรีประเสริฐฯ กล่าวว่าการร่วมจับกุมผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ดีอี ยังได้ตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ในระบบอินเทอร์เน็ต พบว่า มีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์ชักชวนให้ประชาชนเล่นการพนันออนไลน์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม จึงประสานงานให้ตำรวจสอบสวนกลางดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ทำการสืบสวนโดยละเอียดในทุกมิติ พบว่ามีการกระทำความผิดจริง โดยกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มคนที่มีอายุช่วงวัยรุ่นถึงวัยทำงาน มีฐานะร่ำรวยผิดปกติ ภายในช่วงระยะเวลาไม่นาน (1-2 ปี) และจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน ประกอบกับพยานหลักฐานอื่น น่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 63 หมายจับ และสามารถขอหมายค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนันจำนวน 31 จุดทั่วประเทศ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับสำนักงาน ปปง. สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้จำนวน 44 คน (แบ่งเป็นกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ 5 คน, กลุ่มเปิดบัญชีม้า จำนวน 24 คน, กลุ่มคนกด-ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จำนวน 8 คน, กลุ่มพนักงานทำเว็บพนัน จำนวน 7 คน) นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
จากการสอบถามคำให้การเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับรับว่าได้กระทำความผิดจริง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขบวนการ เริ่มตั้งแต่กระบวนการจัดหาบัญชีม้า, กระบวนการเปิดบัญชีม้า, กลุ่มคนทำเว็บพนัน (แอดมิน, คนทำกราฟฟิก,คนทำบัญชี) และกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ โดยแต่ละกลุ่ม ได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สิน
แตกต่างกัน ดังนี้
– กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้าพร้อมใช้ (ต้องมีพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี, บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมใช้) ได้รับเงินค่าจ้างจากเจ้าของเว็บหรือผู้จ้าง จำนวน 6,500-15,000 บาท โดยจะเอาเงินไปให้ผู้เปิดบัญชีเป็นค่าตอบแทนตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท ซึ่งบางรายได้ รายเดือนเดือนละ 500 บาทต่อบัญชี (หากเป็นบัญชีคนไทยจะได้รับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า บัญชีของคนต่างด้าว นอกจากนี้ยังมีลักษณะการเช่าบัญชีม้ารายเดือน เดือนละ 5,000-10,000 บาทนอกจากนี้หากบัญชีม้าที่กลุ่มนายหน้าจัดหามาเกิดมีการปิดบัญชีหรือไม่ส่งมอบเงินให้ตามที่ตกลง ก็จะมีกลุ่มบุคคลเข้าไปติดตาม ทำร้ายร่างกาย เตะ ต่อย บางครั้งมีการใช้ไม้เบสบอลทุบตีให้ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
– กลุ่มผู้ถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็ม จะได้เงินค่ากดเงินครั้งละ 1,000-50,000 บาท เป็นรายครั้ง หากถอนเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จะได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า (แล้วแต่จำนวนยอดรวมที่กดเงินออกมา)
– กลุ่มพนักงาน (แอดมิน,คนทำบัญชี,ฝ่ายโฆษณา,คนทำระบบ) ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน รวมกับโบนัสเป็นแรงจูงใจจากเจ้าของเว็บพนัน ซึ่งแล้วแต่ตกลงกัน
– ผู้รับผลประโยชน์จะนำเงินที่ได้จากเว็บพนัน โดยนำไปซื้อทรัพย์สินและเอาไปฟอกในธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ซึ่งในกรณีนี้มีการตรวจยึดฟาร์มกระบือสวยงาม ระดับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ดีกรีแชมป์การประกวดกระบือ ราคาตัวละหลายล้านบาท พบเปิดมาแล้วหลายปี มีการเผยแพร่ออกสื่อแล้วหลายครั้ง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอฝากเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากเปิดบัญชีม้าจะมีผลกระทบที่ตามมา ทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และอาจถูกนำไปใช้ในธุรกิจสีเทา สำหรับกลุ่มที่ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันในรูปแบบต่างๆ ทางภาครัฐ มีนโยบายปราบปรามและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกยึดทรัพย์ในที่สุด “