พังงา-ชวนชิม “ทุเรียนสาลิกา” ไร่สุขนิรันดร์ราชาทุเรียนบ้านของอำเภอกะปง

Lifestyle News Update social

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ที่หน้าบริเวณสำนักงานอบต.เหมาะ ม.2ในพื้นที่อำเภอกะปง มีการเปิดแผงขายผลไม้โดยเฉพาะทุเรียนสาลิกา ของนายนิรันดร์ หอมทอง อายุ 57 ปี เจ้าของแผงผลไม้ไร่สุขนิรันดร์ ที่ได้รวบรวมทุเรียนสาลิกาของเกษตรกรในพื้นที่มาวางขายทั้งแบบหน้าร้าน และแบบออนไลน์ โดยจะมีการคัดคุณภาพจากในสวนมาส่งให้ถึงมือลูกค้า และรับประกันคุณภาพ

ทุเรียนสาลิกา หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เรียนสากา” นับว่าเป็นราชาของทุเรียนบ้านเบอร์ 1 ภาคใต้ เป็นทุเรียนที่หลายคนต่างรอคอยที่จะลิ้มรสชาติในทุกๆ ปี โดยทุเรียนสาลิกามีแหล่งกำเนิดอยู่ในพื้นที่อำเภอกะปง ของจังหวัดพังงา เป็นทุเรียนที่มีรสชาติหวานมัน และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเมื่อปี 2561 และผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนจะมีคำพูดว่า “ถ้ามาพังงาแล้วไม่ได้กินทุเรียนสากา เหมือนมาไม่ถึงเมืองพังงา” ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี จะเป็นช่วงเวลาที่ทุเรียนสาลิกาออกสู่ตลาด

โดยทุเรียนสาลิกาของแท้ดั้งเดิมที่ได้รับเครื่องหมาย GI จะต้องเป็นของอำเภอกะปงเท่านั้น มีลักษณะผลค่อนข้างกลม เปลือกผลบาง หนามสั้นและค่อนข้างถี่ ผลดิบเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เมื่อผลแก่สีจะอ่อนลงเล็กน้อย และมีสีน้ำตาลอ่อนบริเวณร่องพู เมล็ดภายในส่วนใหญ่จะลีบ ขนาดเล็กเกือบทั้งหมด รสชาติหวานมัน และมีความหวานมากกว่าทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ เนื้อทุเรียนมีสีเหลือง เนื้อหนา ละเอียด ไม่มีเส้นใย เนื้อแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แต่ไม่ฉุน น้ำหนักต่อผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2.5 กิโลกรัม ที่สำคัญทุเรียนสาลิกาพันธุ์ของแท้ดั้งเดิมที่ปลูกในพื้นที่อำเภอกะปง บริเวณตรงกลางแกนเปลือกทุเรียนจะมีสีสนิมแดงทุกผล ซึ่งแตกต่างจากทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ สมกับที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาทุเรียนบ้าน”

 

 

 

โดยทางด้าน นายนิรันดร์ หอมทอง เจ้าของแผงผลไม้ไร่สุขนิรันดร์ เปิดเผยว่า ตนเองได้เปิดแผงขายทุเรียน ต้นทุเรียน และผลไม้อื่นๆมาเป็นเวลากว่า5ปีแล้ว ซึ่งในปีนี้เกษตรกรประสบปัญหาเรื่องภัยแล้ง โดยทำให้ผลผลิตทุเรียนค่อนข้างน้อยและลูกทุเรียนก็ไม่โตเท่าไร โดยเฉพาะผลผลิตมังคุดที่หายไปกว่า60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากน้ำหนักทุเรียนสาลิกาลูกที่เคยโตสุดประมาณ2.5 กิโลกรัม ปีนี้ก็เหลือประมาณ1.8กิโลกรัม

สำหรับราคาขายในต้นฤดูกาลปีนี้ ทุเรียนตัดลูกใหญ่เริ่มที่ราคา 250-280 บาท ส่วนทุเรียนหล่นเริ่มตั้งแต่กิโลกรัมล่ะ 150-190 บาท ซึ่งอยากจะขอวิงวอนทางหน่วยภาครัฐให้ช่วยในประชาสัมพันธ์ในการกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เข้ามาจับจ่ายซื้อขายทุเรียนในพื้นที่ และช่วยพยุงราคาผลไม้ มังคุดทิพย์ และผลไม้อื่นๆในจังหวัดพังงา โดยเข้าไปสั่งได้ทางระบบออนไลน์ได้ที่ “FB:ไร่สุขนิรันดร์ หอมทอง” 064-0148592 โดยพร้อมส่งทั่วประเทศ

ภาพข่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวอาวุโสจังหวัดพังงา