เนื่องในโอกาสการเยือนไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร อธิปไตยด้านอาหาร และป่าไม้ของอิตาลี นายฟรานเชสโก โลลโลบริจิดา (Francesco Lollobrigida) สถานเอกอัครราชทูตอิตาลี กรุงเทพฯ และ สำนักงานพาณิชย์ อิตาเลียนประจำประเทศไทย จัดงานฉลองการเสนอขึ้นทะเบียนอาหารอิตาเลียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโก ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมของอิตาลีได้เสนอชื่อเข้าไปอย่างเป็นทางการเมื่อ 23 มีนาคม 2566
นอกจากนั้น การจัดงานดังกล่าวยังสอดคล้องกับกำหนดการการเยือนประเทศไทยของเรืออเมริโก เวสปุชชี (Amerigo Vespucci) จากอิตาลีแวะเทียบท่าที่ภูเก็ต เมื่อเร็วๆนี้ ทั้งนี้ โดยเอกอัครราช ทูตอิตาลีประจำประเทศไทย มร. เปาโล ดีโอนิซี และข้าหลวงพาณิชย์อิตาลี มิส เปาลา กุยด้า ร่วมกันให้การต้อนรับ ฯพณฯ รัฐมนตรี โลลโลบริจิดา พร้อม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคง ของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ตลอดจน คณะทูตานุทูต ผู้นำทางความคิด นักธุรกิจชั้นนำในด้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งไทยและอิตาเลียน สมาชิกหอการค้าไทย – อิตาเลียน และสื่อมวลชน เพื่อร่วมกันสนับสนุนและสร้าง ฉันทามติในการเสนอชื่ออาหารอิตาเลียนเป็นมรดกโลกดังกล่าว
ประเด็นหลักในการเสนอให้อาหารอิตาเลียนเป็นมรดกโลก เน้นที่วัฒนธรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ ความยั่งยืน และความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความคุ้มครองจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (PDO/PGI) โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ซึ่งห้องอาหารอิตาเลียนเลื่องชื่อ Salvia ที่ได้รับการรับรองจาก “Ospitalita’ Italiana” โดยเชฟ Roberto Parentela รับมอบหมายให้รังสรรค์เมนูพิเศษเพื่อนำเสนอความหลากหลายและรสชาติที่แท้จริงของอาหารในภูมิภาคต่างๆ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ของอิตาลี รวมถึงเกาะซาร์ดิเนียและซิซิลี
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรี โลลโลบริจิดา ยังได้มอบรางวัลทูตวัฒนธรรมแก่ร้านอาหารอิตาเลียน และอิตาเลียนเชฟ 15 คนในฐานะที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและเผยแพร่อาหารอิตาเลียนในประเทศไทย
ในส่วนของความบันเทิง นักร้องเทเนอร์ชื่อดัง นายวากุ คานาซาวะ (Mr. Waku Kanazawa) ซึ่งได้รับเชิญให้แสดงในคอนเสิร์ตและโอเปร่าทั่วยุโรป ขึ้นเวทีพร้อมนักเปียโนชาวไทย คุณรสิกมล ศรียะพงษ์ ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทั้งในยุโรป และเอเชีย ร่วมกันสร้างบรรยากาศให้งานมีสีสันยิ่งขึ้นด้วยเสียงร้องและดนตรีที่ทรงพลัง
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นำเสนอผลิตภัณฑ์จากอิตาลีที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ พาสต้า ทรัฟเฟิล ไปจนถึงคาเวียร์ โดยทั้งหมดนี้มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย
งานฉลองการเสนอขึ้นทะเบียนอาหารอิตาเลียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโกในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมพิเศษในการเฉลิมฉลองและประชาสัมพันธ์การเสนอชื่อขึ้นทะเบียนดังกล่าว ซึ่งได้จัดขึ้นมาแล้วในเมืองสำคัญทั่วโลก อาทิ นิวยอร์ก โดฮา ลาสเวกัส ลียงและโตเกียว โดยกระทรวงเกษตรอธิปไตยทางอาหารและป่าไม้ (MASAF) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมประเทศอิตาลี ร่วมจัดงานนี้ พร้อมความร่วมมืออย่างเหนียวแน่น จากกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี (MAECI) สำนักงานพาณิชย์อิตาลี (ITA) กระทรวงการท่องเที่ยวและองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวอิตาลี ( ENIT)
ความประทับใจจากรสชาติอันยอดเยี่ยมของอิตาลียังไม่สิ้นสุด ด้วยการนำเสนอสัปดาห์อาหารอิตาเลียนรอบโลก 2024 ที่เชิญชวนผู้สนใจไปชิมเมนูที่หลากหลายจากภัตตาคารและร้านอาหารอิตาเลียนที่ได้รับการรับรองทั่วไทยตลอดเทศกาลนี้