ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณ สำนักงาน สำนักงาน ศรชล.จังหวัดพังงา ศาลากลางจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา นาวาเอกสุรชัย อุดมสุข รองผอ.ศรชล.จังหวัดพังงา นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ นายสุรศักดิ์ แจ้งจุล ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา พ.ต.อ.ธรรมสรรค์ บุญทรง ผกก.สภ.คุระบุรี จ.พังงา ทสจ. ทช.6 ทหารฐานทัพเรือภาค 3 เจ้าหน้าที่ อช.หมู่เกาะสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ศรชล.พังงา ตำรวจ สภ.คุระบุรี ชุดปะดาน้ำ ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยสรรพาวุธทหารเรือภาค 3 ร่วมประชุมหารือกรณีเรือ ขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมาร์ ชื่อเรือ MV.AYAR LINN ขนาด 100.05 ตันกรอส สัญชาติเมียนมาร์ พบรอยรั่ว บริเวณท้องเรือ เกยตื้นที่บริเวณ อ่าวจาก เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาล่าสุดพบว่า สภาพเรือ ยังคงจมอยู่ในน้ำ เหลือเพียงข้องกัปตัน และกระโดงเรือที่โผล่พ้นน้ำ โดยเรือลำดังดังกล่าว จมในความลึก 4-5 เมตร ใต้ท้องเรือสร้างความเสียหายให้แก่ปะการังเสียหายเป็นระยะทางประมาณ 75 เมตร ตั้งแต่จุดแรกที่เกิดการชนไปจนถึงจุดที่เรือเกยตื้นสนิท ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดกับปะการังลักษณะก้อน เบื้องต้นประมาณ 150 ตารางเมตร
สำหรับชนิดปะการังที่ได้รับผลกระทบหลัก ได้แก่ ปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) เสียหายมากที่สุดประมาณ 80% ขณะพบว่าเรือพม่าเกยตื้น ปะการังสีน้ำเงินหายากที่สุดในโลก
เบื้องต้น ทางอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ ได้ทำการ ดูดน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันที่เรือบรรทุกมาด้วย ออกจากเรือ จำนวน 7,700 ลิตร เพื่อป้องกันน้ำมันรั่วไหลซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศในพื้นที่ดังกล่าว พบว่าตั้งแต่เกิดเหตุคลื่นแรงทำให้ไม้ บริเวณท้ายเรือ และด้านข้างเรือแตกหลุดเสียหาย
ส่วนในที่ประชุม มีการหารือหาวัน เวลา น้ำลดลงสุด และสภาพอากาศที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการยกกาบเรือเริ่มจากยกท้ายเรือให้เหนือน้ำโดยใช้บอลลูนยกเรือ อุปสรรคคือปูนซีเมนต์กระสอบ 150 ตัน ซึ่งมีการคาดการณ์จากอุตุนิยมวิทยาว่สพายุพัดผ่านพื้นมี่เกิดเหตุในช่วงวันที่ 7-12 มิ.ย.68 ทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคในการเข้าผู้ซากเรือลำดังกล่าว นอกจากนี้มีการพูดคุย ถึงมูลค่าความเสียหาย เบื้องต้นทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้แจ้งความเสียหายไว้ที่ 12 ล้านบาท โดยทาง ผู้เข้าร่วมประชุม มีความคิดเห็นให้แจ้งการละเมิดด้านอื่นไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานหรือองค์กรอื่นๆ พร้อมคิดมูลค่าความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆสำหรับเรือลำดำกล่าว ปัจจุบัน ยังไม่สามารถติดตามตัวเจ้าของเรือซึ่งอยู่ในประเทศ Myanmar ได้ เส้นทางเจ้าท่าจังหวัดพังงาต้องประสานไปยัง ศูนย์ประสานชายแดนไทย-พม่า ที่จังหวัดระนองเพื่อให้ติดตามตัวเจ้าของเรือลำดังกล่าวเร่งด่วนที่สุด
ทาง นาวาเอกสุรชัย อุดมสุข รอง ผอ.ศรชล.จังหวัดพังงา กล่าวว่า ที่ประชุมในวันนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อให้แต่ละหน่วยงาน มีคำสั่งรองรับ ในการดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องของการกู้ซากเรือส่วนปัญหาอุปสรรค คือสภาพอากาศ มีผลในการ กู้ซากเรือลำดังกล่าว
ด้านนายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางอุทยาน ได้ดูดน้ำมันเรือ ออกจาก เรือที่เกิดเหตุ จำนวน 7,700 ลิตร เพื่อป้องกันการรั่วไหลที่จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่ ส่วนในการกู้ซากเรือเบื้องต้น พบว่าประสบปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่จะเกิดพายุ ในช่วงวันที่ 7-12 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและในการกู้ซากเรือจะคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ภาพข่าว
นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป /โกอู๋@ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา