SACICT กำหนดแผนยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านงานศิลปหัตถกรรมในภูมิภาคอาเซียน
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในโอกาสวันครบรอบ วันสถาปนาของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ว่า SACICT ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญด้านการอนุรักษ์ สืบสานและต่อยอดคุณค่างานศิลปหัตถกรรม ที่สืบทอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ที่สำคัญอย่างยิ่งคือสามารถสร้างงานสร้างโอกาส และรายได้ แก่ผู้ทำงานศิลปหัตถกรรม เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกิดความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ภารกิจของ SACICT จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศ โดยมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคง เข้มแข็ง ยั่งยืนแก่เศรษฐกิจฐานราก ขณะเดียวกันทุกภาคส่วนจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป วงการศิลปหัตถกรรมไทยจำต้องหลอมรวมภูมิปัญญา องค์ความรู้งานหัตถศิลป์ไทย ผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสทางการตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายงานหัตถศิลป์ให้กว้างไกล
นอกจากนี้ การผลักดันไทยให้เป็น Arts & Crafts Hub of ASEAN ภายใต้การดำเนินงานของ SACICT ที่เป็นศูนย์รวมความรู้งานศิลปหัตถกรรมที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการ บูรณาการข้อมูลงานหัตถศิลป์อย่างรอบด้านในทุกมิติ ผ่านการจัดเก็บข้อมูลบนระบบการสืบค้นข้อมูลที่สามารถใช้งานง่ายทุกที่ทุกเวลา หรือที่เรียกว่า SACICT Archive
ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีการรวบรวบองค์ความรู้งานหัตถศิลป์บนดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทั้งจากตัวบุคคล ตัวผลิตภัณฑ์และกระบวนการขั้นตอนการทำ เชื่อมโยงข้อมูลกับแหล่งเรียนรู้และชุมชนหัตถกรรมทั่วประเทศ ซึ่งภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคประชาชน นักเรียนนิสิตนักศึกษา ภาคการผลิต ผู้ทำงานศิลปหัตถกรรม ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ. SME และผู้ที่มองหาโอกาสทางธุรกิจ สามารถเชื่อมโยงและนำข้อมูลมาใช้งานต่อยอดให้เกิดการพัฒนาตนเองเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มประสิทธิผลในการผลิต รวมทั้งช่วยในการสืบสานรักษางานศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป