วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off สร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ทั่วไทย ใกล้ใจ ใกล้คุณ ภายใต้ “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” โดยมี นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวง พม. , ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ , พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ , เครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ เข้าร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์


นายอัครา กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งยึดถือเป็นแบบอย่างของการทำงานด้วยความเสียสละและความเมตตาเพื่อประชาชนชาวไทย ด้วยพระราชปณิธานที่แน่วแน่ในการอุทิศพระองค์เพื่อประโยชน์สุขและความมั่นคงของประเทศชาติอย่างแท้จริง ในโอกาสนี้ ได้ร่วมกันถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงด้วยการยืนสงบนิ่งไว้อาลัย เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

นายอัครา กล่าวว่า กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยนโยบายหลักที่สำคัญในการเร่งการขับเคลื่อนงานของกระทรวง พม. คือ “พม. ใกล้คุณ” ลดรายจ่าย สร้างรายได้ รีสตาร์ทชีวิต เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้รับการช่วยเหลือดูแลและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับผู้สูงอายุ ครอบครัว และชุมชน



นายอัครา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งสวนทางกับอัตราเกิดใหม่ของประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานที่มีจำนวนลดลง ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีการย้ายถิ่นฐาน เพื่อการประกอบอาชีพและหารายได้ ส่งผลให้แนวโน้มของผู้สูงอายุจะต้องอยู่ลำพัง ถูกทอดทิ้ง และขาดผู้ดูแลเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และการสร้างสังคมคุณภาพ โดยมุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกในการเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ภายใต้นโยบาย “พม. ใกล้คุณ” ด้วยการขับเคลื่อน “โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน” เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างระบบการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ด้วยการสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ทำหน้าที่เสมือนลูกหลานของผู้สูงอายุในชุมชนโดยปกป้อง คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ ช่วยเหลือดูแล และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ครอบคลุม 5 มิติ ได้แก่ มิติทางด้านสังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี เพื่อลดรายจ่ายและสร้างรายได้ในครัวเรือน รวมทั้งเศรษฐกิจในชุมชน
นายอัครา กล่าวว่า วันนี้ จึงมีการจัดกิจกรรม Kick off สร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ทั่วไทย ใกล้ใจ ใกล้คุณ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนและภาคีเครือข่าย เกี่ยวกับการดําเนินโครงการบริบาลฯ และประชาสัมพันธ์การรับสมัครผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ โดยในปี 2569 จะมีการสร้างผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จำนวน 536 คน รวมกับรายเดิมอีก 342 คน รวมทั้งสิ้น 878 คน ซึ่งสามารถรองรับการดูแลผู้สูงอายุที่ครอบคลุมทุกอำเภอ ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุและครัวเรือนเปราะบางอย่างรวดเร็ว ด้วยการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกในครอบครัว ที่สามารถทำงานใกล้บ้านและดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ใจ ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ ครอบครัว และชุมชนทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ
นายอัครา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติเป็นคนในชุมชนที่ได้รับการยอมรับให้ทำหน้าที่ดุจลูกหลานของผู้สูงอายุในชุมชน ด้วยจิตสาธารณะ เสียสละ และอดทน พร้อมสละเวลาและกำลังในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อชุมชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์รับสมัครพร้อมกันทั่วประเทศในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ โดยขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจ สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทั่วประเทศ และเข้ารับการอบรมพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างทักษะความรู้ในหลักสูตรผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ระยะเวลา 240 ชั่วโมง โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการทั้ง 11 แห่ง เป็นผู้ดำเนินการจัดอบรมระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคม 2569 และผู้ผ่านการอบรมฯ เป็นผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2569 เป็นต้นไป
“อย่างไรก็ตาม ตนจะขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออกมาร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ โดยปรับพื้นที่โรงเรียนร้างมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งจะเป็นการแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยของผู้สูงอายุกับเด็กและเยาวชน ซึ่งจะทำเป็นบ้านสองวัยอย่างเป็นรูปธรรมในรูปแบบของบ้านกลางเป็น “ศูนย์ร่วมสุข” ในอนาคตต่อไป” นายอัครา กล่าว


