วันนี้ (25 ก.ย. 64) เวลา 14.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 64 กระทรวง พม.ได้มอบรางวัล “ผู้เสียสละ เพื่อสังคม” ภายใต้โครงการมอบรางวัลบุคคลผู้ทรงคุณค่าต่อสังคมไทย ให้กับพระพิศาลธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดสะพาน เขตคลองเตย กทม. คุณเต๊ะ ศตวรรษ ศิลปินจิตอาสา และ ร.ต.อ.แวอาลิฟ แวดีซา รองสารวัตร สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งทั้ง 3 ท่าน นับถือศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม ตามลำดับ ซึ่งเป็นเพียงคนเล็กๆ ที่มุ่งมั่นทำความดี แต่ไม่มีใครรับรู้ จึงเป็นผู้ที่สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะภาคีเครือข่ายของกระทรวง พม. เป็นแบบอย่างของการทำความดีของสังคมในการช่วยเหลือและสร้างกำลังใจให้กับผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และกลุ่มเปราะบางในสถานการณ์โควิด-19
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า พระพิศาลธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดสะพาน ได้เปิดพื้นที่วัดเป็นศูนย์พักคอยผู้ป่วยโควิด-19 โดยให้ที่พักและอาหาร ยารักษาผู้ป่วย ซึ่งได้กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ฯ ที่วัด เกิดจากความห่วงใยของประธานชุมชนในเขตคลองเตย และได้รับความห่วงใยจากหลายๆ ภาคส่วน โดยเฉพาะจากภาครัฐบาล และยังมีการคิดต่อยอดสร้างกลุ่มอาสาสมัครให้ผู้ป่วยพักอยู่ในบ้านของตนเองโดยไม่ต้องออกมา เพื่อให้ธรรมชาติสร้างภูมิคุ้มกันโรคขึ้นมา และจัดยาสามัญประจำบ้านของเราตามสภาพอาการให้ผู้ป่วยกิน หลังจากนี้ ถ้าโควิด-19 รอบใหม่จะมาอีก ขอให้ทุกคนไม่ต้องตกใจ ให้ดูแลสุขภาพของตัวเอง อาหารการกิน และมีสติแล้วค่อยศึกษา เรียนรู้และอยู่กับโรค ถ้าวันต่อไปไม่ดีขึ้น เราค่อยวางแผนจะทำอย่างไรต่อไป ทั้งนี้อยากขอให้เราทุกคนตั้งสติ
คุณเต๊ะ ศตวรรษ ศิลปินจิตอาสา ที่ได้เข้ามาช่วยโครงการ Hope for Home บ้านนี้มีความหวัง ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ในชุมชน กทม. ได้กล่าวว่า เราควรจะออกมาทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง แบบคุณบอย พีซเมคเกอร์ เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ จากคนๆ หนึ่งก็ย่อมส่งต่อไปถึงอีกคนหนึ่ง และขออนุญาตพูดถึงถ้อยคำของพระเจ้า “อย่าให้เราแค่พูดโดยใช้ปาก แต่ให้เราสำแดงความรักเป็นการกระทำ” ซึ่งตัวผมเองเป็นคนที่บกพร่องมาก่อน แต่ได้เข้าไปช่วยเหลือคนที่บกพร่องเช่นกัน มันอบอุ่นใจ ผมคือคนบาปที่อยากสำแดงความรักของพระเจ้า
และ ร.ต.อ.แวอาลิฟ แวดีซา รองสารวัตร สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยแก้ปัญหาความรุนแรงและปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวว่า รางวัลนี้นับเป็นก้าวเล็กๆ ในชีวิตการรับราชการ สิ่งที่ผมทำเป็นการทำหน้าที่ตามปกติ เพียงแต่เพิ่มความใส่ใจเข้าไป ท่าน ผบ.ตร. เคยกล่าวไว้ว่า “ให้ทำความดีด้วยหัวใจ ไปอยู่ที่ไหนก็ทำตัวให้เป็นปุ๋ย” สิ่งที่ผมทำไปไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แค่พระเจ้ารับรู้เพียงพอ ขอบคุณหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี ที่ให้การสนับสนุนให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ทุกคน ที่สนับสนุนและเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อที่จะให้ทำงานตรงนี้ต่อไป นำสันติสุขกลับสู่บ้านเกิด