วันนี้ (19 ก.ย. 64) เวลา 14.15 น. นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมด้วยนางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และ พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ ผกก.1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมแถลงข่าวกรณีนักพัฒนาสังคมทุจริตเงินกลุ่มเปราะบาง ภายหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ผ่านการถ่ายทอดสด (Live) ผ่าน เพจ Facebook พม. (SocialMsociety) ณ ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กทม.
นางพัชรี กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีการทุจริตเงินของทางราชการของนายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ในเบื้องต้น กระทรวง พม. ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดของผู้กระทำความผิด เพื่อทำให้ตรวจสอบเงินในบัญชีได้มากขึ้น และไม่ให้มีการถ่ายโอนเงินไปให้บัญชีของผู้อื่น นอกจากนี้ ยังให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผู้กระทำความผิดได้ยักยอกเงินของกระทรวง พม. แล้วถ่ายโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว และมีการโอนเงินเข้าบัญชีของใครต่อหรือไม่ เพื่อจะได้เอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย อีกส่วนหนึ่ง คือ กระทรวง พม. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อจะตรวจสอบว่ามีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียว หรือมีบุคคลอื่น หรือหน่วยงานอื่นเกี่ยวข้องร่วมกันกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า มีการกระทำความผิดในปีนี้ 2564 เนื่องจากในการดูแลเรื่องงบประมาณนั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานเป็นประจำทุกปี ทำให้ผู้กระทำความผิดเร่งถ่ายโอนเงินสิ้นปีงบประมาณ 2564 ภายในเดือนกันยายนนี้ และรีบหนีไปก่อน ที่ สตง. จะเข้ามาตรวจสอบและพบการกระทำความผิด
นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว กระทรวง พม. จะถอดบทเรียนในการแก้ไขระบบเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้นอีก เนื่องจากอาจมีช่องว่างของระบบตัวบุคคลที่มอบหมายให้รับผิดชอบในการเบิกจ่ายต่างๆ ถึงแม้จะมี 3 คน แต่ด้วย ความเชี่ยวชาญด้านการเงินในระบบ IT ของราชการ ถือว่ามีจุดอ่อนเยอะมาก จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยจะต้องปรับบุคคลที่เคยทำงานอยู่ในสังกัดกรมนี้ให้ย้ายไปทำงานกรมอื่น มีการสลับหน่วยงานในแต่ละกรมสังกัดกระทรวง พม. เพื่อไม่ให้เกิดการไว้วางใจ มีการมอบรหัสเบิกจ่ายเงิน และอาจจะให้หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบ IT มาช่วยดูระบบของกระทรวง พม. ทั้งหมด ทั้งนี้ ขณะนี้ ได้มีการเปลี่ยนรหัสใหม่ทั้งหมดของกระทรวง พม. เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำความผิดเข้ามายักยอกเงินได้อีก และในอนาคตจะต้องมีการปรับระบบใหม่ทั้งหมด ว่ามีช่องว่างอย่างไรนอกจากตัวบุคคล หากพบว่ามีช่องว่างตรงไหนก็จะปิดระบบตรงนั้น สำหรับในส่วนของการป้องกันการทุจริตนั้น กระทรวง พม. จะได้ร่วมมือกับ ปปท. และ ปปง. เพื่อหารือถึงแนวทางร่วมกันในการแก้ไขกรณีดังกล่าวที่เป็นเคสตัวอย่าง เป็นการทุจริตเงิน โดยไม่ได้จับเงินเลย เราจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันการทุจริตในอนาคต