หากจะให้นิยามคำว่า “บ้าน” สำหรับใครหลายคน บ้านคือเซฟโซนที่เราสามารถหลีกเร้นจากความวุ่นวาย เป็นพื้นที่ที่ให้เราได้เป็นตัวของตัวเอง และสำหรับหลายคนที่อยู่เป็นครอบครัวใหญ่ บ้านยังเป็นศูนย์รวมจิตใจและประสบการณ์ของคนหลากรุ่นหลายวัยให้ได้แลกเปลี่ยนมุมมองของชีวิต
นิยามคำว่า “บ้าน” ในความหมายของธนาสิริ นอกเหนือจากตัวบ้านที่ครบถ้วนตอบโจทย์ในการใช้งาน ดีไซน์ที่ทันสมัย คุณภาพที่วางใจ เรายังมุ่งหวังที่จะดูแลและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนทุกวัยอย่างต่อเนื่อง (Enhance) มุ่งมั่นในการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน ทั้งภายในโครงการและสังคมรอบข้าง (Embrace) รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่เริ่มต้นจนการพัฒนาโครงการเสร็จสมบูรณ์ (Environment) เป็นแนวคิด 3E Thanasiri Well-Being Model ที่นำไปสู่ “บริบทแห่งความยั่งยืน” (Return on Sustainability) ที่เกื้อกูลทั้งต่อผู้อยู่อาศัย สังคมรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
แนวคิดดังกล่าว เทียบเคียงได้กับ ESG ที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบของบริษัท 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และการกำกับดูแล (Governance) สู่แนวทางในการกำหนดเป้าหมายและการดำเนินงาน โดยมีกลยุทธ์ Total Green Real Estate Development – Services เป็นตัวขับเคลื่อนอย่างครอบคลุมในทุกมิติ แสดงให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของ “ธนาสิริ” กับแบรนด์นักพัฒนาสังคมน่าอยู่มากกว่านักสร้างบ้าน
Green ในบริบทของ Total Green Real Estate Development – Services หรือ THANA GREEN นั้น ขับเคลื่อนผ่านมิติหลักสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ ตัวบ้าน (Hardware) กระบวนการพัฒนา (Software) และ ผู้คน (People) ตั้งแต่เริ่มแนวคิดการพัฒนา (Green Development Concept) – จัดหาที่ดิน (Green Land Acquirement) – ออกแบบ (Green Design) – นำเสนอลูกค้า (Green Sale & Marketing) – ก่อสร้าง (Green Construction) – ส่งมอบ (Green Hand – Over) – เข้าอยู่อาศัย (Green Community Management) สนับสนุนด้วยกระบวนการดำเนินงานภายในองค์กร และที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บัญชีการเงิน (Green Finance) – อำนวยการและกฎหมาย (Green Admin and Legal) – ดูแลลูกค้าและสรรค์สร้างแบรนด์ (Green Customer Care & Branding) – พนักงาน (Green HR) และที่สำคัญกลุ่มพันธมิตรสีเขียว (Green Alliance)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินการในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีตัวอย่างของการนำ Green ในแต่ละกระบวนการไปดำเนินการตามหลักการ ESG ที่เป็นแนวทางในการกำหนดเป้าหมายและการดำเนินงาน ตัวอย่างเช่น
ด้านสิ่งแวดล้อม – ลดการใช้กระดาษในทุกกระบวนการทำงาน, การใช้สื่อ Online และ Social Media ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า, การโฆษณา / โปรโมทโครงการใหม่ๆ, แนวทาง 1 ต้น 1 หลังในทุกโครงการ, การนำ Circular Eco Model มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการก่อสร้าง, การขับเคลื่อนรณรงค์ผลักดันการอยู่อาศัย ภายใต้แนวทาง Green Clean Lean ด้วยการคัดแยกขยะ และการสร้างปุ๋ยอินทรีย์จากเศษใบไม้ รวมถึงการลดขยะเศษอาหาร และการนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่
ด้านสังคม – การรณรงค์ส่งเสริมการอยู่อาศัยร่วมกันอย่างใส่ใจ เอื้ออาทรกัน ผ่านทุกกิจกรรม Green ที่ขับเคลื่อนโดยผู้คนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่อเสริมสร้างทัศนจิตยั่งยืน (Green Mindset), การดูแลสุขภาวะและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมและการทำงานของคนงาน, การสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว
ด้านการกำกับดูแล – ให้ความสำคัญกับความโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เช่น การสรรหาที่ดินตั้งแต่การนำเสนอจนถึงโอนกรรมสิทธิ์, การเลือกธนาคารที่มีนโยบายด้าน GREEN และ ESG, การนำเสนอสื่อสารด้วยข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงตรงไปตรงมา และเคารพในสิทธิส่วนบุคคล (PDPA), การประเมินผลความพึงพอใจการให้บริการ และนำผลมาวิเคราะห์หาแนวทางปรับปรุงการบริหารจัดการ และให้บริการกับผู้อยู่อาศัยในชุมชน
ผลจากความตั้งใจในการมุ่งสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืนทำให้ ในปีที่ผ่านมาของบริษัทได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 193 บริษัทหุ้นยั่งยืนประจำปี 2566 ด้วยระดับคะแนน BBB สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 140,000 KgCO2eq เทียบเคียงกับการปลูกต้นไม้ได้สูงถึงประมาณ 14,000 ต้น
เพราะบ้านที่ดีไม่ใช่แค่มีกายภาพที่ถูกตาต้องใจ แต่สิ่งที่สำคัญคือจิตวิญญาณของสมาชิกทุกคนที่หลอมรวมและสร้างให้ “บ้าน” แต่ละหลังมีความแตกต่างอย่างมีชีวิตชีวา และจะดียิ่งกว่าหากทุกครอบครัวพร้อมใจกันปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืน ร่วมกันใส่ปุ๋ยรดน้ำ พรวนดิน เพื่อให้ต้นไม้แห่งความยั่งยืนเติบโตและงอกงามอย่างแข็งแรงในสังคมและโลกของเราต่อไป